ซึมเศร้า ก็เลิกซึมเศร้า

ซึมเศร้า ก็เลิกซึมเศร้า

ในสังคมยุคปัจจุบัน โรคซึมเศร้ากำลังเล่นงานในครอบครัวสังคมไทย มีทั้งที่เป็นผู้ใหญ่ มีทั้งที่เป็นเด็ก และดูเหมือนว่า การรักษา ไม่ใช่เรื่อง่ายๆ ใช้เวลานาน และอาจไม่หาย ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะ กระบวนการทำงานในจิตใจ ที่เกิดจากกรรมและวิบาก จาก ชนกกรรม มาทำให้เกิดประสบการณ์ที่ไม่ดี แต่จริงๆแล้ว ซึมเศร้า ก็เลิกซึมเศร้าได้ หากว่า จิตใจเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงาน ไปเป็นการทำงานที่ดีที่เหมาะสมเหมาะควร

นี่เป็นอีกกรณี ที่ลุงพุฒได้ฟีดแบ็คมา เป็นข้อความ ทำให้สามารถนำมาอวดได้ (ถ้าโทรฯมาคุย จนปัญญาครับ เพราะไม่สามารถเอาไฟล์เสียงที่บันทึกไว้ มาอวดได้ เพราะถ้ามาอวด คนใกล้ชิดของผู้ที่เล่า ซึ่งน่าจะรู้เรื่อง และจำน้ำเสียงได้ จะรู้ว่าเป็นใคร)

ฟีดแบ็คที่เพิ่งมา

เป็นภาพที่แคปเจอร์มาจากหน้าจอของเฟซบุ๊คแมสเซนเจอร์นะครับ ใน Dark Theme ครับ ลุงพุฒแก่แล้ว ดูหน้าจอพื้นขาวตัวอักษรดำนานๆไม่ไหวครับ เนื่องจากทำงานด้านโค้ดดิ้งด้วย ทำให้วันหนึ่งๆอยู่หน้าจอพีซีนานกว่า ๘ ชั่วโมง ครับ

คุณแม่ของน้องคนที่เป็นโรคซึมเศร้า เพิ่งส่งข้อความมาให้ เมื่อวานครับ น้องเป็นโรคซึมเศร้ามานานตั้งแต่เป็นเด็กนักเรียนแล้วครับ เพราะไปดูหนังสยองขวัญเรื่องหนึ่ง แล้วลืมเรื่องนั้นไม่ได้ คอยวนเวียนอยู่ในหัว จนกระทั่งสร้างความเครียดในสมอง จนกระทั่งการทำงานของสมองเพี้ยนไป และทำให้เกิดปัญหาเรื่องสารเคมีในสมอง จนต้องทานยา

สมองจดจำ ภาพน่ากลัว ที่ลืมไม่ลง จากภาพยนตร์สยองขวัญ

ไม่ได้ถามว่าเรื่องอะไร แต่ถ้าให้เดา ด้วยวัย อาจจะเป็นหนังหนังสยองขวัญคลาสสิคในตำนานที่ยังมีคนกล่าวขวัญอยู่ ลองแวะไปดูก็ได้ครับ

แต่บรื๋อส์ ลุงพุฒไม่เอาล่ะครับ หาหนังแอคชั่นประเภทคนร้ายตายตอนจบดูดีกว่า เพราะชีวิตจริงก็ยุ่งแล้ว ทำไมจะต้องเติมความเครียดให้กับตัวเองอีก 😅

ได้ช่วยครั้งแรก เมื่อเข้า ICU

ลุงพุฒรู้จักน้องเขามานานแล้วนะครับ แต่ได้รับการติดต่อให้ช่วยเหลือครั้งแรก ก็เพราะน้องเขากินยา Overdoze จนกระทั่งต้องส่งโรงพยาบาลเข้า ICU

ในครั้งนั้น ลุงพุฒแก้ไขปัญหาแบบ “เฉพาะหน้า” ให้สามารถฟื้นและรักษาตัวได้จนกระทั่งได้ออกจากโรงพยาบาล (ทั้ง ICU และ จิตเวช)

และอีกครั้ง เมื่อมฤตยูจรมาเล็ง

จนกระทั่งมาเมื่อปีที่แล้ว เมื่อดาวมฤตยูจร ขยับมาเล็งลัคนา คราวนี้น้องเขาก็เริ่มมีปัญหาอีก ปัญหาที่มีคือ เริ่มมีความขัดแย้งกับคนรอบข้าง คนนั้นไม่ดี คนนี้ไม่ถูก และความเป็นคนชอบครุ่นคิดอยู่ภายในคนเดียว ก็ยังอยู่ จิตจึงทำงานวนเวียนอยู่แต่ในเรื่องที่คิด ทำให้เกิดปัญหาความเครียดในสมองอีก

เป็นปัญหาที่ไม่คาดคิด

แต่ปัญหาที่หนักก็คือ น้องเขาไปคุยกับพระและชีที่เขาเคารพ ซึ่งอยู่ในจังหวัดทางภาคอีสาน เพื่อสอบถามประเด็นที่เขาติดขัดอยู่ในใจ ก็คือ เวลาที่อาการของน้องเขากำเริบ เขาจะอาละวาดทำลายข้าวของและด่าคนรอบข้าง

แต่ทีนี้คนรอบข้างของน้องเขา เป็นบุพการี คือ คุณแม่

กลัวตายไปตกนรก

แต่ทีนี้คนรอบข้างของน้องเขา เป็นบุพการี คือ คุณแม่

น้องเขาก็เลยไปถามพระ เรื่องนี้ ทั้งพระและชีก็บอกว่า “ตายไปตกนรกแน่”

อาการหนักทันที

แค่นั้นล่ะครับ น้องเขาก็ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของ “มฤตยูเล็งลัคนา” ในทันที นั่นคือ เกิดความเครียด เพราะต้องการหนีจากตัวเอง เพราะต้องการหนีจากโทษของการด่าบุพการี จนอาการกำเริบ และถูกจับตัวส่งโรงพยาบาล

ลุงพุฒมารู้ก็เมื่อน้องชายโทรฯมาคุยด้วย และแจ้งข่าว ลุงพุฒก็ตกใจ เพราะก่อนหน้านั้น คือ ประมาณไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ที่ได้คุยกัน ก็ยังหัวเราะร่าเริงอยู่เลย ก็งง ว่าเกิดอะไรขึ้น

ก็ต้องแก้ปัญหากันแบบด่วนๆ

สอบถามจากน้องชาย ก็ไม่ได้ความ สอบถามจากคุณแม่ ก็ไม่ได้ความ ในตอนแรก พอมาตอนหลัง ก็ค่อยๆเข้าใจ หลังจากที่น้องชายพยายามไปสอบถามจากพี่ชาย ว่ามีประเด็นข้างบน

ลุงพุฒเลยตัดสินใจ ต้องเปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวงของน้องเขาจริงๆจังๆแล้วล่ะ ไม่งั้น อาการจะหนักกว่านี้ เพราะดาวมฤตยูจะเล็งลัคนาอีกนาน สงสารคุณแม่ที่ก็อายุมาก แล้วลูกๆกลับไม่มีใครที่จะแข็งแรงจนจะดูแลตัวเองได้ แม้ว่าจะโตๆกันแล้ว

ถอดชนวนระเบิดก่อน

แต่ก่อนที่จะเปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวง (ซึ่งใช้เวลา) ลุงพุฒต้องแก้ปัญหาเรื่องความเข้าใจคลาดเคลื่อน (จนเป็นเหตุให้อาการซึมเศร้ากำเริบอีก) ให้ได้ก่อน ก็เลยเขียนข้อความส่งไปให้ทั้งคุณแม่และน้องชาย บอกว่า ให้ไปอ่านลูกชาย/พี่ชายฟัง โดยเขียนบอกไปว่า “ยังไม่ได้ทำ ‘อันตริยกรรม ทั้ง ๕’ เลย ไม่ได้ห้ามสวรรค์ห้ามนิพพานสักหน่อย จะไปกลัวการตกนรกทำไม ถ้าในเวลาที่เหลือต่อจากนี้ เราหัดมีสติรู้สึกตัวได้เนือง อาจิณกรรมนี้ มหากุศลกรรมนี้ จะพาให้เราไปสู่สุคติ ไปกลัวอะไร”

คุณแม่บอกว่า ต้องฝากพยาบาลไปอ่านให้ฟัง บอกว่า “พี่ตึก” ฝากมา

ก็ต้องลุ้นอีกว่าจะเปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวงได้ทันหรือไม่?

หลังจากที่น้องเขาได้ข้อความนี้ไปแล้ว จิตใจก็ผ่อนคลายบ้าง แต่ก็ยังมีปัญหาต่อมา คือ การต่อต้านการรักษา คือ คุณหมอวินิจฉัยไว้แล้วว่า ต้องทำการช็อร์ตไฟฟ้าอีก (ครั้งที่เท่าไหร่แล้ว ก็ไม่ทราบ ลุงพุฒลืมไปแล้ว ตอนแรกก็ไม่เคยรู้เลยว่า เคยรักษาด้วยการชอร์ตไฟฟ้ามาก่อนแล้ว พอดีคุณแม่เล่าให้ฟัง)

ลุงพุฒก็เร่งหาดวงใหม่ให้ได้เร็วที่สุด เพื่อที่จะได้ “เปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวง” ให้น้องเขา แต่ว่า แม้จะได้ดวงใหม่มาแล้ว (ซึ่งเปลี่ยน วันเดือนปีเกิด เวลาเกิด ใหม่ แต่ไม่ต้องไปแจ้งทางการ เพราะกฎหมายไม่ได้เปิดโอกาสให้เปลี่ยนได้ ไม่เหมือนเปลี่ยชื่อ หรือเปลี่ยนนามสกุล เพราะเรื่องการเปลี่ยนวันเดือนปีเกิด เวลาเกิด จังหวัดที่เกิด ใหม่ ไม่มีมาในวัฒนธรรมประเพณีเดิมมาแต่ก่อน กฎหมายจึงไม่ได้เขียนรองรับไว้) แต่ฤกษ์ที่หาให้ ก็ไม่แน่ใจว่าจะทัน

ก็มีบุญญาวาสนาเก่า เข้าช่วย

ก็ให้พอดีว่า คุณแม่แจ้งกลับมาว่า การชอร์ตไฟฟ้าในครั้งนี้ ต้องเลื่อนออกไป เพราะคิวยาว (ได้ยินแล้วยังตกใจ คนป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอย่างหนัก มีเยอะขนาดนี้เลยหรือ) ก็เลยอุ่นใจ เพราะฤกษ์ที่จะทำพิธีเปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวงให้นั้น ทันก่อนที่จะทำการรักษาจริงๆพอดี

และให้ดีใจด้วยว่า ดวงใหม่ที่ได้ ดาวมฤตยูเป็นคุณ ก็จะได้ช่วยแก้ไขผลของดาวมฤตยูเล็งในดวงเก่า แล้วยังจะทำให้ การรักษาด้วยการชอร์ตไฟฟ้า ให้ผลดีด้วย

แต่มีเรื่องใหญ่ ที่ต้องทำด้วย

แต่ในการเปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวงครั้งนี้ ลุงพุฒได้คุยกับคุณแม่ไว้ก่อนแล้วว่า มีความจำเป็นที่ต้องขอให้คุณแม่เปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวงด้วย ทั้งนี้เนื่องจาก ลุงพุฒได้สังเกตเห็น “ลักษณะร่วม” ของลูกๆทั้ง ๓ คน ในเรื่องของ “อารมณ์รุนแรง” โดยเฉพาะ เท่าที่เคยคุยกับลูกชายทั้ง ๒ คน (มีพี่สาว ๑ คน) ก็พบว่า ทั้ง ๒ คน จะรู้สึก อึดอัด หนักใจ เครียด จนต้องแสดงออกด้วยอารมณ์ที่รุนแรง บ่อยครั้ง เมื่อได้คุยกับคุณแม่

ตอนแรกคุณแม่อึกอัก แต่ในที่สุดก็ยอม

ทุกอย่างเป็นไปตามการวิเคราะห์และวางแผน

ก็เป็นจริงดังคาด ในดวงของคุณแม่ แสดงไว้ชัด ว่าลูกมีปัญหาด้านการควบคุมอารมณ์ ดังนั้น ไม่น่าแปลก ที่จะมีลักษณะนี้ปรากฎในนิสัยของลูกทั้ง ๓ คน

ก็หลังจากที่เปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวงน้องเขา กับคุณแม่ เรียบร้อยไปแล้ว สิ่งแรกที่เกิดขึ้นก็คือ น้องเขายินยอมรักษาด้วยการชอร์ตไฟฟ้าโดยดี ไม่ต่อต้าน แต่ที่สำคัญกว่านั้น ก็คือ คุณแม่เล่าให้ฟังว่า น้องเขารู้สึกได้ ว่ามีความรู้สึกเย็นสบายอยู่ที่กลางอก ซึ่งลุงพุฒก็บอกว่า นั่นคือ พลัง หรือ อำนาจ ของพุทธคุณ ที่ลุงพุฒขออัญเชิญมาทำการเปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวงของน้องเขา (หรือจริงๆก็คือ เปลี่ยนกระบวนการทำงานของจิต ให้เป็นไปตามดวงใหม่)

และในการคุยครั้งหลังนี้ คุณแม่มาพร้อมกับน้องชายคนเล็ก ลุงพุฒก็เลยถามน้องชายคนเล็กว่า นิสัยของคุณแม่เปลี่ยนใหม่ น้องชายคนเล็กบอกว่า “เปลี่ยนเยอะเลย” นั่นก็แสดงว่า จิตใจของคุณแม่ ก็เปลี่ยนกระบวนการทำงานไปตามดวงใหม่แล้ว อย่างแน่นอน

ชีวิตของคุณแม่ ก็เปลี่ยน ไปในทางที่ดีขึ้นด้วย

แต่ถ้าถามในรายละเอียด ว่าเปลี่ยนจากอะไร ไปเป็นอะไร โดยยกตัวอย่างขึ้นมา ลุงพุฒก็ไม่ทราบนะครับ เพราะไม่ได้ถามรายละเอียด และไม่ได้ติดใจอยากรู้ด้วย ลุงพุฒเพียงแต่หันกลับไปบอกกับคุณแม่ว่า ต่อไป แม้แต่คุณแม่เอง ชีวิตก็จะดีขึ้นด้วย ไม่ใช่แค่ลูกๆจะมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะดวงที่เปลี่ยนไป ถึงอย่างไรลุงพุฒก็ต้องทำไปตามมาตรฐานของลุงพุฒ แม้ว่าจะมีปัญหาใดที่ต้องแก้เป็นพิเศษ แต่พื้นฐานหลัก ในความเห็นของลุงพุฒ คือ “การงาน-การเงินดี มีการตัดสินใจที่ดี ทำงานหรือใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นได้ดี อยู่เป็นครอบครัวที่มีความมสุข”

คราวนี้ คุณแม่เลยเล่าเรื่องของตนเองให้ฟัง ว่าเมื่อก่อนนี้ เคยเป็น “คหบดี” ของจังหวัด (สำนวนเก่าหน่อยนะครับ แต่ทำให้เห็นภาพได้ดี) คนทั้งจังหวัดรู้จัก แต่ราวๆสิบกว่าปีมานี้ ก็ตกอับ ถดถอยมาตลอด ตอนนี้ที่อยู่ได้ ก็เพราะขายสมบัติเก่าไปเรื่อยๆ ลุงพุฒก็บอกว่า “ต่อไปจะดีกว่านี้ครับ”

และล่าสุด จากข้อความเมื่อวาน ที่คุณแม่ส่งมาให้ ก็เป็นอย่างที่ในภาพหน้าจอที่แคปเจอร์มาครับ อ่านต่อได้เลยครับ

แต่ต้องพึงระวังสังวร สำหรับผู้ป่วยเป็นซึมเศร้า

แต่กับกรณีที่เป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ลุงพุฒจะย้ำอยู่เสมอว่า “ต้องทานยา และรักษาตัว ตามคำแนะนำของแพทย์เจ้าของไข้ อย่างสม่ำเสมอ อย่าละเลย” และ “หากเราอาการดีขึ้นจริง คุณหมอจะสั่งลดยาเอง”

จิตที่เดินอยู่ด้วย อิทธิบาท ๔ ย่อมทำการสำเร็จ และไม่กลับมาล้มเหลวอีก

แต่ถ้าท่านใดสงสัย ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร โดยเฉพาะ ทำไม เมื่อจิตเปลี่ยนกระบวนการทำงานไปแล้ว แล้วไม่เปลี่ยนกลับมาอีก ลุงพุฒก็จะต้องบอกว่า “ลองศึกษา สติปัฎฐาน ๔” นะครับ ในการเจริญเวทนานุปัสสนาสติปัฎฐาน ในฝ่ายนามธรรม คือ สุขทุกข์ทางใจ ซึ่งอยู่รวมในการเจริญกรรมฐานที่เรียกว่า “ดูจิต” ซึ่ง หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ศรีราชา ชลบุรี ผู้เป็นครูหนึ่งเดียวที่ลุงพุฒเรียนกรรมฐานด้วย ท่านสอนนะครับ

แวะเข้าไปดูได้ที่นี่ครับ

https://www.youtube.com/@dhammadotcom

และหากไม่เคยฟังมาก่อนนะครับ แนะนำ playlist นี้ก่อนครับ

https://www.youtube.com/@dhammadotcom/playlists?view=50&sort=dd&shelf_id=3

เมื่อเข้าใจ (คือ ฟังจนเข้าใจ แล้วลงมือปฏิบัติตามไปด้วย จนจิตเจริญวิปัสสนาได้ถูกต้องไประยะหนึ่ง ก็จะเข้าใจที่ลุงพุฒอธิบาย) ก็จะเข้าใจว่า เมื่อจิตมีความยินดีพอใจ ในการทำสิ่งนั้น ด้วยความสุขเบาๆ ที่เรียกว่า “โสมนัสเวทนา” ซึ่งเกิดขึ้นได้ทั้งเพราะมีสติและสัมปชัญญะ หรือเพราะกำลังของการอาราณนาพุทธคุณมา ก็ตาม กระบวนของ “อิทธิบาท ๔” ข้อแรก คือ “ฉันทะ” ก็เกิดขึ้น และวงรอบของอิทธิบาท ๔ ก็จะทำงานไปได้เอง เพียงแต่ เราสามารถเสริมกำลังของวงรอบนี้ได้ด้วยการทำทาน รักษาศีล และภาวนา ซึ่งเป็นเรื่องง่ายของดวงใหม่ที่จะทำเช่นนี้ ทำแล้วสบาย ทำแล้วมีความสุข ทำแล้วจิตมีกำลัง วงรอบแห่งความเจริญก็จะเกิดขึ้นครับ

ทำไมต้อง “ประกอบพิธี” หรือ “ทำพิธี”

ลุงพุฒ อาศัยอธิษฐานบารมีเข้าช่วย จึงทำให้ การเปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวงสำเร็จลงได้ ส่วนการประกอบพิธีตามฤกษ์นั้น ก็เป็นไปตามตำราที่กำหนดไว้ และถือเป็นโอกาส ที่จะได้อาราธนาอัญเชิญเทวดา มาฟังธรรม จากการสวดพระสูตร ในพระพุทธศาสนาด้วย นอกเหนือจากการที่ทวยเทพไท้เทวดาจะได้มาฟังธรรมแล้ว ก็จะได้เจริญมิตรไมตรี หรือที่ในพระพุทธศาสนาเรียกว่า “เมตตา” ต่อกัน

หมายเหตุ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ท่านไม่ได้สอนโหราศาสตร์ให้กับลุงพุฒนะครับ ดังนั้น อย่าไปกวนท่านในเรื่องนี้เลยำ

อ่านเรื่องราวการเปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวงย้อนหลังได้ ที่นี่

ผู้คนรอบตัว กับ ลัคนาและอาทิตย์

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย สำหรับผู้ที่เปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวงมาเล่าให้ฟัง

อ่านเรื่อง เปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวง คีย์สำคัญอันหนึ่ง คือ ลัคนา และ อาทิตย์ ได้ที่นี่

อ่านเรื่อง การย้ายราศีของดาวมฤตยู ได้ที่นี่

อ่าน FAQ เปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวง ได้ที่นี่

เนื่องจาก ฟีดในเฟซบุ๊ค ไม่เหมาะที่จะทำ index เอาไว้ให้นะครับ ก็เลยต้องใช้วิธีเชื่อมโยงลิงก์กันแบบนี้ครับ

วัชรพล ศิริวัฒน์
ลุงพุฒ บ้านหมอดูวัชรพล
วันศุกร์ ที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๖

เพจ https://www.facebool.com/nakamole
เว็บไซต์ https://nakamole.com
ค่าครูและหมายเลขบัญชี https://nakamole.com/#price

อ้างอิงเพจ https://www.facebook.com/nakamole/posts/pfbid0ZreyQyF9XPxAWshYe6DazhfimoLCs5pcE9FvVZ1tiz6eQa8B8ugh7ZF1hMRBhvaal

อ้างอิงบล็อก https://nakamole.com/blog/aIA1