จิตเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน

จิตเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน โลกสดใส ในฉับพลัน

จิตเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน ไม่เกินจริงหรอกครับ ก็ถ้าจิตเปลี่ยนได้เมื่อใด ชีวิตก็เปลี่ยนได้เมื่อนั้น เพราะธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นใหญ่ มีใจเป็นประธาน สำเร็จแล้วด้วยใจ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเอาไว้นานกว่า ๒,๖๐๐ ปี มาแล้ว

เรื่องราวนี้ เป็นเรื่องราวของเดือนที่แล้ว (คือ เดือน มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๖) ที่มีความคืบหน้าต่อเนื่องมาถึงเดือนนี้ ครับ

จิตเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง และไม่ขัดหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จิตเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน
จิตเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง และไม่ขัดหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จิตเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง และไม่ขัดหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จิตเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง และไม่ขัดหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จิตเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง และไม่ขัดหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จิตเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง และไม่ขัดหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จิตเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง และไม่ขัดหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จิตเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง และไม่ขัดหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ความตั้งใจ

ก่อนที่จะไปคุยกันในเรื่องที่ตั้งใจจะเล่าสู่กันให้อ่าน ก็ขออธิบายความตั้งใจของลุงพุฒอีกครั้งนะครับ พอดีมีตัวป่วน มาป่วนที่เพจครับ

ลุงพุฒตั้งใจไว้แต่เพียงว่า ต้องการทำ improvement หรือ การปรับปรุง เพื่อให้คนไทย มีความสามารถมากขึ้น มีครอบครัวที่อบอุ่น ทำงานเป็นทีมได้ และอยู่ในกรอบของ คุณธรรม และ ศีลธรรม

และ ลุงพุฒไม่มีความตั้งใจ ที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยทางกาย หรือ ผู้ป่วยทางใจ เพราะแต่เดิมทีนั้น ลุงพุฒตั้งใจไว้แต่เพียงว่า ต้องการทำ improvement เท่านั้น

และลุงพุฒก็ไม่ใช่เป็นคนที่ต้องการเงินทองมากมายจนถึงขนาดเป็นเศรษฐี ขอแค่มีพอกับภาระที่มี ก็พอแล้ว

แต่ก็มีคนมาท้าทายบนหน้าเพจ ว่า ถ้าเก่งจริง ก็เปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวงตนเอง ให้ถูกรางวัลที่ ๑ สิ แล้วจึงจะเชื่อ

มันก็สะท้อนว่า ในใจของเขา ก็มีปัญญาอยู่แค่นี้ มองอะไรก็แค่ง่ายๆสั้นๆ มาแบบนี้ ลุงพุฒก็ไม่สนใจหรอก แบนได้ก็แบน มันง่ายดี เพราะไม่มีอะไรต้องคุยกัน อย่างน้อย เขาก็ไม่ได้รู้ว่า ลุงพุฒเป็นคนที่ไม่เล่นการพนัน ไม่ซื้อล็อตเตอรี ดังนั้น คนอย่างนั้น ไม่ใช่คนที่ควรจะเสวนาด้วย

ก็นึกภาพง่ายๆ เปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวง ให้ถูกรางวัลที่ ๑ สิบงวดติดต่อกัน แล้วประเทศชาติจะมี Improvement ที่ตรงไหน?

บางคนก็มาพูด บอกว่า ลุงพุฒทำในสิ่งที่ไม่มีพระพุทธศาสนา พอเข้าไปดูโปรไฟล์แล้ว ก็เป็นคนที่ศรัทธาในธรรมกาย ก็เอาเถอะ เพราะธรรมกายก็สอน นิพพานเป็นอัตตา พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ได้สอนเช่นกัน (ไม่ว่าจะแถกันประมาณไหน ก็หนีไม่ออกหรอก เพราะใน “ธรรมนิยมสูตร” องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านทรงประกาศไว้ชัดว่า “สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา” “สังขารทั้งหลายไม่คงที่ สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปดับไป ธรรมทั้งหลาย (ทั้งสังขาร และ วิสังขาร คือ นิพพาน) ไม่ใช่ตน ไม่อยู่ในอำนาจ ไม่เป็นไปตามปราถนา”

ลุงพุฒไม่ได้เป็นพวก ๑๘ มงกุฏ

ลุงพุฒเปลี่ยนธาตุเปลี่ยดวงคนมานับร้อยคน นับตั้งแต่ก่อนที่จะสถานการณ์ โควิด-๑๙ ก็หากว่า มันเป็นการหลอกลวงผู้คน ป่านนี้ลุงพุฒก็คงจะโดนแจ้งความและถูกจับไปแล้ว เพราะลุงพุฒก็อยู่บ้านหลังนี้ หลังที่เป็นเป็นสำนักงาน มาตั้งแต่สมัย “ต้มยำกุ้ง” โน่นแล้ว เป็นบ้านของตนเอง ไม่ได้เช่าบ้านของใคร อยู่มานานขนาดนี้ ถ้าหากเป็นการหลอกลวงผู้คน ก็คงถูกแจ้งความและถูกจับไปแล้ว

แต่ถ้าใครคิดจะกลั่นแกล้งลุงพุฒ ด้วยการไปแจ้งความว่าลุงพุฒหลอกลวง ก็ต้องขอบอกนะครับว่า ผู้ที่จะแจ้งความได้ ก็ต้องเป็นผู้ที่เสียเงินให้กับลุงพุฒเพื่อการเปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวงเท่านั้น คนอื่นๆ อยู่ดีๆจะมาแจ้งความ ไม่ได้ เพราะไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมาย และหากใครคิดจะทำ ก็ต้องเตรียมรับมือการการแจ้งความกลับ ในข้อหา “แจ้งความเท็จ” ซึ่งเป็นคดีอาญาด้วยนะครับ และหากมีการนำไปโฆษณาด้วยแล้ว ก็จะแจ้งความกลับ “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา” ซึ่งจะมีโทษทั้งทางแพ่งและอาญา ด้วยนะครับ

กลับมาคุยกันต่อในเรื่องที่อยากจะเล่าให้อ่านกัน วันนี้ครับ

เป็นผู้ป่วยจิตเวช

ปกติแล้ว ถ้าเป็นผู้ป่วยทางจิตเวช หรือ เป็นออทิสติก ลุงพุฒไม่ได้อยากเข้าไปยุ่งด้วย เพราะมันก็คาบเกี่ยวกับเรื่องกฎหมาย โดยเฉพาะลุงพุฒไม่ได้เป็นแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์แผนปัจจุบัน และแพทย์แผนไทย ไม่มีในอนุญาตประกอบโรคศิลป์ เดี๋ยวจะมีปัญหาในภายหลัง

ลุงพุฒเรียนจบวิศวกรรมไฟฟ้ามานานกว่า ๓๐ ปี แล้ว ได้ ก.ว.มาทั้งไฟฟ้ากำลัง และ ไฟฟ้าสื่อสาร แต่มาทำงานด้าน IT ไม่ได้ใช้ ก.ว. ก็เลยไม่ได้ไปต่ออายุ ก.ว. พอขาดอายุแล้วก็แล้วกันไป เพราะจะไปต่อ ในสมัยนั้น ก็ยุ่งไม่น้อย ต้องลางานไป ทำงานต่างจังหวัด แต่ต้องไปต่อ ก.ว.ที่กรุงเทพมหานคร สนุกซะที่ไหนล่ะครับ สมัยนั้นยังไม่มีอินเตอร์เน็ตนะครับ ไม่แน่ใจว่าเครื่อง Fax มีหรือเปล่า แต่ที่มีแน่ๆก็คือ เครื่องถ่ายเอกสาร

เมื่อไม่มีใบประกอบโรคศิลป์ ก็ไม่อยากที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการรักษาของแพทย์ ครับ

แต่เพราะเป็นคนที่รู้จักกันมานาน

แต่ในกรณีนี้ เป็นคนที่รู้จักกันมานานนะครับ ดังนั้น เมื่อถึงจุดหนึ่ง ก็ต้องช่วยกัน ทางน้องชายส่งข่าวมาบอก ว่าพี่ชายมีอาการกำเริบจากความหวาดระแวงหลายเรื่อง ซึ่งลุงพุฒก็งงๆ เพราะก่อนหน้านั้น ก็ได้ดูดวงกันอยู่ ก็เห็นว่า ไม่ได้เครียดอะไร เพียงแต่บอกไปว่า ช่วงนี้ให้ระวัง อย่าไปพูดไปคุยไปยุ่งกับใคร ให้มากนัก เพราะมฤตยูเข้ามาเล็งแบบเล็งเป๊ะๆเลย หากสามารถผ่านช่วงนี้ไปได้ อาการโรคหวาดระแวงทั้งหลายก็น่าจะควบคุมอยู่

แต่เหตุการณ์ก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะสุดท้าย ก็เกิดเหตุจนได้ เกิดอาการทางจิตจนกระทั่งทางบ้านต้องแพ็คส่งโรงพยาบาลเลย

เกิดอะไรขึ้น

ตอนแรกลุงพุฒก็สงสัยครับว่า เกิดอะไรขึ้น เพราะก่อนหน้านั้น ก็ดูดีขึ้นมาแล้วนะครับ เพราะเห็นว่าคุณหมอเจ้าของไข้ ก็ลดยาที่ให้ลงไป และก็ยังเห็นอารมณ์ดี คุยสนุก หัวเราะได้อยู่เลย และยังบอกเลยว่า มีความสุขดี

แต่หลังจากเกิดเหตุ จนถึงขนาดต้องจับตัวส่งโรงพยาบาล ก็เลยสอบถามกับทั้งน้องชายและคุณแม่ จนในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่า เป็นเพราะไปคุยกับพระและแม่ชี ในปมปัญหาที่เป็นประเด็นของตนเอง ก็คือ ด้วยความเป็นคนที่ป่วยเป็นโรคจิตที่รักษาด้วยยา เวลาที่เกิดโทสะขึ้น ก็จะอาละวาดและด่าว่าทุกคนที่อยู่ใกล้ๆตัว และคนๆหนึ่งก็คือ “แม่” นั่นแหละครับ

ทีนี้พอได้ “ด่า” “แม่” ไปแล้ว พอนึกได้ ก็กลัวความผิดบาปที่ตนเองทำ ก็พยายามจะหาทางออก แต่พอได้ไปคุยกับ พระ และ แม่ชี (ที่วัดไหนก็ไม่ทราบ น่าจะอยู่แถวๆอีสานมั้งครับ) ก็น่าจะเป็น พระ และ แม่ชี ที่รักษาเขาด้วยยาสมุนไพร (และชอบบอกเขา ให้งดกินยาจากแพทย์แผนปัจจุบัน และพองดยาทีไร อาการก็จะกำเริบทุกทีไป จนผมต้องสำทับ ว่าห้ามงดกินยาจากแพทย์แผนปัจจุบัน)

พอเขาไปคุยเรื่อง “ด่า” “แม่” นี่ล่ะครับ ทั้งพระ ทั้งแม่ชี ก็บอกว่า “ตายไปตกนรก”

พอเจอ Killing Word นี้เข้า อาการกำเริบ

อาการที่กำเริบ

คือถ้าถามลุงพุฒว่า คำพูดแค่นี้น่ะหรือ ที่ทำให้ “อาการกำเริบ” ลุงพุฒก็ต้องบอกว่า ถ้าเรามองเข้าไปในในรายละเอียดของการทำงานของจิตใจ เราจะพบว่า เขาจะเกิดอาการดิ้นรนที่จะหนีนรกนี่ล่ะครับ แต่เขาไม่สามารถดิ้นรนหนีไปได้ เหตุเพราะเป็นการกระทำของตนเอง ดังนั้น เมื่อใดที่เขาคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็จะเกิดอาการดิ้นรนหนีตนเอง

และปัญหาคือ เมื่อจิตหลุดเข้าไปในโลกของความคิดในเรื่องนี้เมื่อไหร่ การที่จะหลุดออกมาจากห้วงความคิดนี้ก็ยากมากด้วย (นึกถึงเวลาที่เราเสียใจในเรื่องอะไร เรื่องที่จะทำให้จิตนั้นหลุดออกมาจากการคิดถึงเรื่องที่ทำให้เสียใจนั้น ง่ายเสียที่ไหนครับ หากไม่ฝึกการมีสติรู้สึกตัว รู้ทันว่าตนเองกำลังหลงไปในโลกของความคิดแล้ว รับรอง ไม่หลุดออกมาง่ายๆหรอกครับ)

และการที่มีอาการดิ้นรนหนีตัวเองของเขา ก็เป็นเพราะจิตมีกิเลสประเภท “โทสะ” ครอบงำ เมื่อใดที่จิตมีกิเลสประเภท “โทสะ” จิตก็มีความทุกข์ (หลวงพ่อ ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ศรีราชา ชลบุรี ท่านแสดงพระธรรมเทศนาไว้อย่างนี้ ลูกศิษย์กระจอกปลายแถวอย่างลุงพุฒ ฟังท่านมาครับ)

ความทุกข์ทางใจที่กำเริบต่อเนื่องยาวนานนั่นแหละครับ จะทำให้เกิดการทำงานที่ผิดเพี้ยนไป ทั้งสมองและจิตใจ

แก้ปัญหาเฉพาะหน้า

ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เอาแบบง่ายที่สุด ก็คือ ฝากข้อความไปให้เขาได้อ่าน (ต้องผ่าน “พยาบาล” นะครับ ญาติผู้ป่วยเอาไปให้เอง ไม่ได้) ก็บอกไป บอกว่า กรรมที่กระทำไปแล้วมีผลทำให้ ชาติถัดไป ต้องตกนรกแน่นอน ๑๐๐% ห้ามสวรรค์ ห้ามนิพพาน ในพระพุทธศาสนา มี ๕ ประการ คือ อนันตริยกรรม ทั้ง ๕ ได้แก่ มาตุฆาต (ฆ่ามารดา) ปิตุฆาต (ฆ่าบิดา) อรหันตฆาต (ฆ่าพระอรหันต์) โลหิตุปบาท (ทำร้ายพระพุทธเจ้าให้บาดเจ็บตั้งแต่ห้อเลือดขึ้นไป) และ สังฆเภท (ยุให้สงฆ์แตกแยก)

ในชาตินี้ ยังไม่ได้ฆ่าแม่ ยังไม่ได้ฆ่าพ่อ ยังไม่ได้ฆ่าใคร ดังนั้น ๓ ข้อแรก ไม่ได้ทำ ยุคนี้ไม่มีพระพุทธเจ้า ดังนั้นข้อ ๔ ไม่มีโอกาสทำ ส่วนการยุสงฆ์ให้แตกแยก การเป็นฆราวาสทำไม่ได้ ผู้ที่จะทำให้สงฆ์แตกแยกได้ มีแต่ภิกษุด้วยกันเท่านั้น แต่เขาไม่ได้เป็นพระ ดังนั้น ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้ทำ

ก็ไม่ได้ทำทั้ง ๕ ข้อ แล้ว เรื่องที่จะต้องตกนรกแน่ๆในชาติถัดไป ก็ไม่ใช่สิ่งที่คาดหมายได้ และหากว่า นับจากนี้ไป หัดฝึกให้รู้ทัน จิตที่หลงไปทุกข์ จิตที่หลงไปคิด ได้บ่อยๆ โอกาสที่ชาติต่อไป ยังจะอยู่ในสุคติภูมิ (คือ ไม่อยู่ในอบายภูมิทั้ง ๔) ก็ยังมีอยู่

ทั้งหมดก็เพื่อให้จิตใจของเขาตั้งหลักได้ (หลังจากที่เจอฤทธิ์ร้ายของ มฤตยูที่เข้ามาเล็ง)

การแก้ปัญหาขั้นต่อไป

นอกจากการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว ก็ต้องวางแผนและลงมือทำในการแก้ปัญหาระยะกลาง ดังนั้น ลุงพุฒก็ฝากบอกไปกับคุณแม่ด้วยว่า จะทำพิธีเปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวงให้ ไม่ต้องกลัว และจะหาให้ทันก่อนที่จะมีการรักษาด้วยวิธีช็อตไฟฟ้าด้วย

แต่ในตอนแรกๆ เขายังปฏิเสธที่จะไม่รักษาด้วยวิธีการช็อตไฟฟ้านะครับ ทำให้ ลุงพุฒก็ต้องเร่งสแกนดวงดาวบนท้องฟ้า เพื่อหาดวงใหม่ธาตุใหม่ ที่จิตใจจะมีความมั่นคง ไม่หวั่นไหวแกว่งไกวรุนแรง เมื่อมีเรื่องต่างๆมากระทบ (หรือมี “ผัสสะ” ตามภาษาของพระพุทธศาสนา) อีกทั้งยังต้องเป็นดวงใหม่ธาตุใหม่ ที่เข้ากันได้กับการรักษาแบบนี้

นอกจากนี้ ยังต้องทำอีกก็คือ ต้องแก้ไขที่ตัวการสำคัญอีก ๑ ด้วย

แก้ไขที่คุณแม่ด้วย

ต้องแก้ไขที่ดวงของคุณแม่ด้วย เพราะครอบครัวนี้ มีพี่น้อง ๓ คน และทั้ง ๓ คนนี้ มีลักษณะร่วมเหมือนกันอย่างหนึ่งทุกคน ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ มักจะปรากฎในดวงของผู้เป็นแม่ ในเรื่องของลูก ด้วย

หรือถ้าหากกล่าวเป็นภาษาของชาวพุทธ เราก็ต้องบอกว่า จะต้องมีประเด็นในจิตใจ ซึ่งจะกำหนดพฤติกรรม ที่จะทำให้ได้บุคคลที่มีปัญหาในเรื่องนี้ มาเกิด และตลอดระยะเวลาที่มีชีวิตอยู่ ก็จะยังส่งผลครอบงำ พฤติกรรมและชีวิตของลูกๆ อันเนื่องจากเป็น “แม่” ของพวกเขาด้วย (ในพระพุทธศาสนา คุณของแม่คุ้มกะลาหัวลูกนะครับ)

ในทางโหราศาสตร์ ชะตาชีวิตของแม่ ก็ครอบงำลูกด้วย เพียงแต่ว่า ในลูกแต่ละลำดับ อาจมีผลปลีกย่อยที่ต่างกัน แต่โดยรวมๆ “เรื่องลูก” จะเป็นไปตามที่เห็นภาพรวมของลูก ในดวงแม่ ครับ

ก็กล่อมกันนิดหน่อย ในที่สุด คุณแม่ ก็ยอมครับ ที่จะเปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวงตนเอง

ทันก่อนช็อตไฟฟ้า

คราวนี้ ลุงพุฒก็รีบหาฤกษ์เพื่อประกอบพิธีเปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวงให้กับทั้งแม่และลูก ซึ่งก็ทันก่อนที่จะเริ่มการรักษาด้วยการช็อตไฟฟ้า

เท่าที่คุยกับคุณแม่ ก็พบว่า

  • จิตใจโปร่ง เบา สบาย มีความสุขเบาๆ และมีความเย็นโชยออกมาจากกลางอก
  • ยินยอมรับการรักษาโดยการช็อตไฟฟ้าโดยไม่ขัดขืน

และหลังจากเสร็จสิ้นการรักษาด้วยการช็อตไฟฟ้าครั้งนี้ ความสุขจากกลางอก ก็ยังมีอยู่ และลุงพุฒก็ได้ข้อความทางไลน์จากเจ้าตัวเขาเองด้วย ซึ่งก็แคปเจอร์หน้าจอมาให้อ่านกันครับ (ข้อความ ๒ ภาพแรก เป็นของคุณแม่ จาก เฟซบุ๊คแมสเซนเจอร์ ส่วน ข้อความ ๓ ภาพหลัง เป็นข้อความจาก ไลน์ ที่ส่งมาให้เมื่อวันจันทร์ ที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๖ ครับ)

ความสุขที่เกิดขึ้นกลางอก

ก็ตามที่ลุงพุฒเคยเล่ามานักต่อนักแล้วครับว่า ลุงพุฒไม่ได้ใช้กำลังของตนเอง ทำให้เกิดการเปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวง แต่เป็นกำลังพุทธคุณ ทั้งกำลังขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบางพระองค์ ทั้งกำลังของพระโพธิสัตว์บางองค์ ลุงพุฒทำเพียง ๒ อย่าง คือ การสแกนดวงดาวบนท้องฟ้า เพื่อหาวัน เวลา และ สถานที่ ที่มีโครงสร้างดวงดาวบนท้องฟ้า ที่จะทำให้จิตทำงานได้ตามเป้าประสงค์หรือเป้าหมย กับอีกอย่างก็คือ การอธิษฐานจิต

ส่วนความสุขที่เกิดขึ้นกลางอก นั่นเป็นเพราะจิตใจได้สัมผัสถึง “กำลังแห่งพุทธคุณ” ที่อารธนามาเพื่อใช้ในการเปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวง และด้วยโครงสร้างของจิตที่วางไว้ใหม่ (โดยอาศัยวิชาโหราศาสตร์เข้าช่วย) จิตก็จะมีการปรุงแต่งกุศลเกิดขึ้นบ่อยๆ กุศลที่จิตปรุงแต่งขึ้นเองนี่แหละ ที่จะเป็นส่วนที่ทำให้เกิดความสุขที่กลางอกต่อเนื่องต่อไป

และถ้าอาศัยในคำสอนที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทานไว้ให้เรา สำหรับฆราวาส ๓ สิ่งที่พึงกระทำ คือ “ทำทาน รักษาศีล และภาวนา” หากทำได้เนืองๆล่ะก็ จิตก็จะสามารถที่จะปรุงแต่ง “ความสุขที่กลางอก” ให้เกิดขึ้นต่อเนื่องไปได้เรื่อยๆ

การทำทาน ก็จะทำอามิสทานก็ได้ อภัยทานก็ได้ (อันหลังนี้ดีมากๆ ทำให้จิตปรุงแต่งกุศลเกิดขึ้นได้ดีมากๆ มากกว่าอามิสทานเสียอีก จะทำให้กำลังแห่งความสุข เกิดขึ้นได้มากๆด้วย)

การรักษาศีล เป็นการทำไปเพื่อการไม่เบียดเบียนใคร ไม่ว่าจะเป็นการเบียดเบียนผู้อื่น หรือการเบียดเบียนตนเอง ก็จะทำให้จิตปรุงแต่งกุศลได้ง่ายขึ้น ยิ่งมี “อภัยทาน” ด้วยแล้ว ข้อนี้ก็จะง่าย และมีความสุขที่จะมีชีวิตอยู่ด้วยการไม่เบียดเบียนคนอื่นด้วย

การภาวนา ดีที่สุดก็คือ การเจริญสติในชีวิตประจำวัน ซึ่งก็ควรที่จะไปฟังให้เข้าใจวิธีการก่อน ซึ่งสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากพระธรรมเทศนา ของ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ศรีราชา ชลบุรี ผู้เป็นครู ๑ เดียว ที่สอนวิปัสสนากรรมฐานให้กับ ลุงพุฒ https://www.youtube.com/@dhammadotcom/playlists (ท่านไม่ได้สอนโหราศาสตร์ให้ลุงพุฒนะครับ อย่าไปเข้าใจผิดว่าท่านสอนโหราศาสตร์ด้วย)

ก็เท่าที่น้องเขาเล่ามาให้ลุงพุฒได้อ่าน จากข้อความ เมื่อวันอังคารที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๖ ก็ทำให้ได้เห็นว่า เขาน่าจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้แล้ว เพราะคีย์เวิร์ดที่สำคัญของเขาก็คือ “ตอนนี้จิตใจผมสบายมากเลยครับ เหมือนมันเริ่มอยู่นิ่งๆได้” และ “มันแปลกๆคือเหมือนกับว่าการลุ้นใจแกว่งไปแกว่งมาไม่เกิดครับ จะได้จะเสีย ใจก็ไม่ตกไม่ฟูมากเหมือนสมัยก่อน”

ก็ถ้ามีความคืบหน้าใดๆ ลุงพุฒก็จะมาเล่าสู่กันฟัง อีกครั้งครับ

อ่านเรื่องราวการเปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวงย้อนหลังได้ ที่นี่

ชีวิตที่รุ่งโรจน์ https://www.facebook.com/nakamole/posts/pfbid05eTH8u8xdEjUoYw9PKBt3pe6eaKktKESt6zyjUMFsjAFu2nPqcb9gVqXUkLKsGChl หรือ https://www.facebook.com/Vacharaphol.Sirivat.Tuek/posts/pfbid03yNDFxpR9SuaMcGPUKUwkd1dtuQnWUD2rsuTAywHMSmzSPwtcESijNKaNB378q4Bl

ชีวิตที่รุ่งโรจน์

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย สำหรับผู้ที่เปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวงมาเล่าให้ฟัง https://www.facebook.com/nakamole/posts/pfbid033r9RBGDT2EFKaXt5uezu4m4gmYqYK8Gx4MG5DhSgzvRRFnv1QPg1J5t7C6qgpNeFl

อ่านเรื่อง เปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวง คีย์สำคัญอันหนึ่ง คือ ลัคนา และ อาทิตย์ ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/nakamole/posts/pfbid02BXWHixvYLqZTHwTSkEv4TUZNZeD5ooYDN6rpsEb3YzKvShZySxANuGyddesakBfgl

ลัคนา และ อาทิตย์

อ่านเรื่อง การย้ายราศีของดาวมฤตยู ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/nakamole/posts/pfbid024JE1du6YnvhL1skE1DkcwW3a5gnEkN4JwjrESc4rwZUVZ5twE2M9sYgFcSNYgE53l

การย้ายราศีของดาวมฤตยู

อ่าน FAQ เปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวง ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/nakamole/posts/pfbid024JE1du6YnvhL1skE1DkcwW3a5gnEkN4JwjrESc4rwZUVZ5twE2M9sYgFcSNYgE53l

FAQ เปลี่ยนธาตุเปลี่ยนดวง

เนื่องจาก ฟีดในเฟซบุ๊ค ไม่เหมาะที่จะทำ index เอาไว้ให้นะครับ ก็เลยต้องใช้วิธีเชื่อมโยงลิงก์กันแบบนี้ครับ

วัชรพล ศิริวัฒน์
ลุงพุฒ บ้านหมอดูวัชรพล
วันศุกร์ ที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๖

เพจ https://www.facebool.com/nakamole
เว็บไซต์ https://nakamole.com
ค่าครูและหมายเลขบัญชี https://nakamole.com/#price

อ้างอิงเพจ https://www.facebook.com/nakamole/posts/pfbid02eL82PavmqNNRKowkdE7aoo6ZmqHj6CgDs1SLxXDmcW7R8yiz4VTf2L1TGTwfxJMfl

อ้างอิงบล็อก