วันอังคารที่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๕ เป็นวัน จันทร์ดับ-ตุลาคม-65 หรือจะบอกว่า เป็นวันจันทร์ดับ ของเดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๕ ก็ได้ ในแต่ละเดือน ก็มักจะมีวันจันทร์ดับเพียงเดือนละครั้ง แต่ก็มีบ้างเหมือนกันครับ ที่จะมี วันจันทร์ดับ ๒ ครั้ง แต่จะไม่มีทางที่จะมีวันจันทร์ดับ เกิดขึ้น มากกว่า ๒ ครั้ง ครับ
จันทร์ดับคืออะไร
ในทางโหราศาสตร์ (ซึ่งต้องอาศัยการคำนวณของดาราศาสตร์ เพื่อหาตำแหน่งดวงดาว หรือที่เรียกกันว่า โหราศาสตร์ภาคคำนวณ) แล้ว วันจันทร์ดับ คือ วันที่มีตำแหน่งของพระอาทิตย์ และตำแหน่งของพระจันทร์ ซ้อนทับกัน
ที่เรียกว่าซ้อนทับกัน คือ ซ้อนทับกันสนิทจริงๆ หมายถึง องศาในระนาบสุริยวิถี (Ecliptic) ที่เท่ากัน (เท่ากันจริงๆ ก็ต้องให้ทั้ง องศา ลิปดา ฟิลิปดา เท่ากันด้วย) อ่านเรื่อง สุริยวิถีได้ ที่นี่ http://www.lesa.biz/astronomy/celestial-sphere/ecliptic
แต่ถ้าหากถอดออกมาเป็นพิกัดทางโหราศาสตร์ ก็ต้องบอกว่า ทั้งพระอาทิตย์ และพระจันทร์ ต้องอยู่ในราศีเดียวกัน องศาต้องเท่ากัน (รวมถึง ลิปดา ฟิลิปดา ด้วย) จึงจะเรียกว่า “จันทร์ดับ” ที่แท้จริง
จันทร์ดับสำคัญอย่างไร
ก่อนอื่น ก็ต้องบอกว่า การเกิด สุริยุปราคา ได้นั้น ตำแหน่งของพระอาทิตย์ และ พระจันทร์ ในสุริยวิถี จะต้องอยู่ในตำแหน่งเดียวกันเสียก่อน จึงจะมีโอกาสเกิด สุริยุปราคา ได้ แต่การที่จะเกิด สุริยปราคา หรือ เกิดเหตุการณ์ เงาของพระจันทร์ ทาบลงบนโลก ได้นั้น ยังต้องมีองค์ประกอบเพิ่มอีกส่วน นั่นคือ ถ้ามองจากโลก ไปหาพระอาทิตย์ แล้วพระจันทร์ต้องยกตัวขึ้นมาบังพอดี เงาของพระจันทร์ จึงจะทาบลงบนผิวโลกได้
แต่ถ้าไม่ เราจะไม่เห็นปรากฏการณ์ สุริยุปราคา ได้ เราสังเกตไม่ได้ แต่ในทางโหราศาสตร์ ก็จะเรียกว่า จันทร์ดับ หรือ อามาวสี และในค่ำคืนนั้น เราก็จะไม่เห็น (หรือ แทบไม่เห็น) พระจันทร์ บนท้องฟ้าเลย ซึ่งฝรั่งก็จะเรียกเหตุการณ์นี้ว่า New Moon หรือ การเกิดใหม่ของพระจันทร์
ตรงนี้ ลุงพุฒ ชอบนะครับ เพราะมันทำให้เห็นว่า มีการ “เกิด – ดับ” หรือ เห็นว่า ปรากฎการณ์ต่างๆทางธรรมชาตินั้น “ไม่เที่ยง” ไม่ว่าสิ่งใดจะมีอายุยืนยาวแค่ไหน แต่ปรากฏการณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้อง ก็ล้วนแต่มีการแปรปรวนเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า “มีอายุ” สอดคล้องกับกฎพระไตรลักษณ์ ครับ
เรื่องนี้ ไม่อธิบายเยอะแล้วครับ เพราะมีผู้ที่ทำไว้ดีแล้ว หลายแห่ง แต่ลุงพุฒ ขอยกมาสักแห่ง ก็แล้วกันครับ ลองเข้าไปอ่านเรื่อง สุริยุปราคา ที่นี่ นะครับ
หมายเหตุ ปรากฏการณ์ อ่านว่า ปฺรา-กด-ตะ-กาน หรือ ปฺรา-กด-กาน ก็ได้ครับ อ้างอิง อ่านว่า.com
จันทร์ดับทางโหราศาสตร์
ในทาง โหราศาสตร์ มีความเชื่อกันว่า วันจันทร์ดับ เป็นวันที่ห้ามทำงานมงคลต่างๆ (ที่ไม่ใช่งานมงคลจริงๆ) เช่น งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ งานเปิดร้านใหม่ อะไรทำนองนี้
หากแต่ไม่ได้ห้ามงานที่เป็นมงคลจริงๆ เช่น การตักบาตร การสวดมนตร์ การถือศีล การเจริญสมถะภาวนา การเจริญวิปัสสนา หรือแม้แต่ การนิมนตร์พระไปสวดมนตร์ที่บ้าน ที่เรียกว่า งานทำบุญบ้าน
แต่โดยส่วนใหญ่ การนิมนตร์พระไปสวดมนตร์ที่บ้าน ในวันจันทร์ดับ ก็มักจะทำกันไม่ได้หรอกครับ เพราะหากเป็นพระผู้ซึ่ง ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ท่านจะไม่รับกิจนิมนตร์ ในวันจันทร์ดับ เพราะจริงๆแล้ว จะเป็นวันที่ต้องลงปาฏิโมกข์ ซึ่งต้องลงทุกกึ่งเดือน
เพียงแต่ ในปัจจุบันนี้ ปฏิทินที่กำหนดวันพระ ในวัน แรม ๑๕ ค่ำ กับ วันจันทร์ดับ อามาวสี เอง จริงๆแล้ว อาจไม่ตรงวันกัน แต่ส่วนใหญก็แค่เหลื่อมกัน บวก ลบ ๑ วัน ครับ ดังนั้นก็ควรที่จะเผื่อเหลือเผื่อขาดไปก่อน
และเอาเข้าจริง ในสมัยนี้ ก็เป็นเรื่องยากมากนะครับ ที่จะนินมนตร์พระไปสวดมนตร์ที่บ้าน ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป นั่นก็อย่างหนึ่ง ด้วยความไม่น่าไว้ใจในตัวพระภิกษุ ว่าจะเป็นพระแท้ หรือพระที่ขาดคุณสมบัติไปแล้ว นั่นก็อีกอย่างหนึ่ง หรือแม้แต่พระภิกษุบางรูป ก็กลายเป็น “ผู้ช่างขอ” แทนที่จะเป็นเพียง “ผู้ขอ” ตามความหมายของคำว่า “ภิกษุ” หรือ “ภิกขุ” ขอโน่นขอนี่จากโยมที่รู้จักอยู่เสมอ เป็นการทำอาบัติโดยไม่รู้ตัว (และเป็นประจำ) ก็ทำให้เรื่องนี้ในปัจจุบันนี้ ไม่ค่อยเป็นปัญหาแต่อย่างใด
แต่กับ บริษัท ห้าง ร้าน บางทีก็ยังนิยมทำกันอยู่ โดยเฉพาะคนรุ่นเก่าๆ ซึ่งก็รู้จักกับ พระผู้ใหญ่ ก็ยังทำกันอยู่นะครับ
จันทร์ดับ มีผลต่อกับจิตใจ ได้อย่างไร
มักมีคำถามนี้เกิดขึ้นเสมอนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวดวงดาวต่างๆในโหราศาสตร์ หรือแม้แต่ปรากฏการณ์จันทร์ดับ นี้ก็ด้วยเหมือนกัน
คำถามก็คือว่า จันทร์ดับ จะมีผลอะไรกับเรา ถ้าเป็นกลางคืน ไม่มีแสวงสว่างจากพระจันทร์ ก็ไม่ใช่ว่าเราจะไปไหนไม่ได้ เพราะเรามีรถ เรามีแสงสว่าง ที่จะส่องทางไปตลอดทาง ก็แก้ไขไปได้แล้ว มิใช่หรือ?
ลุงพุฒก็ต้องขอบอกว่า เท่าที่ศึกษามา น่าจะเป็นเรื่อง “ทิศทางของสนามแม่เหล็กโลก” กับ “การทำงานของสมอง” หรือ “คลื่นสมอง” มากกว่าอย่างอื่น
บางท่านอาจบอกว่า ไม่น่าใช้ คลื่นไฟฟ้า กับ คลื่นแม่เหล็กโลก มันจะเป็นเรื่องเดียวกันได้อย่างไร ก็ต้องขอบอกว่า ในทางฟิสิกส์ เมื่อใดที่อิเลคตรอนเคลื่อนที่ จะปลดปล่อย ทั้งคลื่นแม่เหล็ก และคลื่นไฟฟ้า ที่เรียกว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ไงครับ และมีข้อสรุปไว้ด้วยว่า คลื่นแม่เหล็ก กับคลื่นไฟฟ้า เป็นสิ่งเดียวกัน (ด้วยการสังเกตเห็นว่า สมการ ของคลื่นทั้งสองชนิด เหมือนกันเป๊ะๆ ซึ่งเป็นที่มาของการคิดค้นหา ทฤษฎีแห่งสรรพสิ่ง)
บางท่านอาจแย้งอีกว่า นกอาจจะมี
ทิศทางของสนามแม่เหล็กโลก น่าจะมีความแปรปรวน ในลักษณะที่ทำให้ เกิดความยุ่งเหยิง และด้วยสมองของคนเรา ก็ทำงานด้วยคลื่นไฟฟ้า ก็เลยทำให้ ความแปรปรวนของสนามแม่เหล็กโลก มาทำให้เกิดความแปรปรวนของคลื่นไฟฟ้า ในสมองของเรา และทำให้ สมองมีการสร้างสารเคมี ที่ผิดปกติไปจากวันธรรมดาอื่นๆ
เสียดาย ที่หาคลิปที่พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จากยูทูบ ไม่ได้นะครับ ไม่รู้ว่าไปปรากฎอยู่ ในคลิปเรื่องอะไร (จำได้แต่ว่า ฟังจากช่องไหน แล้วก็ไม่มีเวลาค้นมาให้ชมกัน)
แต่ถ้าเป็นเด็กทารกล่ะก็ ลุงพุฒเชื่อว่าเขายังมีความสามารถ ที่จะรับรู้เรื่องความแปรปรวนจากสนามแม่เหล็กโลก อย่างเห็นได้ชัด เพราะอย่างน้อย เหตุการณ์แผ่นดินไหว ที่เชียงใหม่ ครั้งล่าสุด เมื่อเช้ามืด ของวันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๕ ก็มีคุณแม่ท่านหนึ่ง ซึ่งลุงพุฒหาฤกษ์คลอดให้ เล่าให้ฟัง
คุณแม่เล่าว่า ก่อเกิดแผ่นดินไหว ลูกสาวสะดุ้งตื่น แล้วงอแง ก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหว พอคุณแม่ไปกอด ก็หลับต่อได้ (ตอนแรกคุณแม่นึกว่าน้องจะหิวนม ก็เปล่า) นั่นก็แสดงว่า ลูกสาวรับสัญญาณความผิดปกติของสนามแม่เหล็กโลกได้
ก็เพราะก่อนการเกิดแผ่นดินไหว สนามแม่เหล็กโลกในบริเวณนั้นจะแปรปรวน ลุงพุฒเคยได้อ่านเรื่องนี้ มาตั้งนานนับสิบๆปีแล้วล่ะครับ เพราะเกิดการแปรปรวน น้องเขาก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ แล้วรู้สึกกลัว จึงร้องไห้โยเย แต่พอคุณแม่อุ้มไว้ น้องเขารู้สึกว่าปลอดภัยแล้ว ก็หลับต่อ (และคุณแม่ก็เล่าให้ฟังอีกว่า ตัวคุณแม่เลยไม่ได้นอน แล้วแผ่นดินไหวก็เกิดขึ้นตามมา)
ลุงพุฒมีความเห็นเพิ่มเติมว่า เรื่องสนามแม่เหล็กโลกที่แปรปรวน กํบคนที่เป็น ไมเกรน น่าจะเห็นอาการได้ชัดกว่าคนทั่วไป ถ้าทางการแพทย์มีการศึกษาเรื่องนี้โดยเฉพาะ ก็คงจะดี เพราะลุงพุฒก็ได้แค่สังเกต จากผู้คนปกติทั่วไป ที่จะพบว่า ในวันจันทร์ดับ (ก่อนและหลัง พ่วงไปอีกวัน) จะเป็นวันที่หงุดหงิดง่าย ถ้าไม่รู้มาก่อน
วันจันทร์ดับ กับคนรุ่นใหม่
แต่อีกส่วนหนึ่ง ที่คนรุ่นใหม่มักจะทำกันโดยที่ไม่ได้สังเกต หรือ ไม่ได้ระวังกัน ก็คือ การประชุม หรือ การทำงานที่ต้องอาศัยคนหมู่มาก มาอยู่ร่วมกัน และทำงานในลักษณะ ต้อง ร่วมแรงร่วมใจ กันทำงานให้สำเร็จ ในวันนี้ มักจะเป็นวันที่เกิดปัญหาง่ายที่สุด โดยเฉพาะหากว่า มีประเด็นปัญหาความขัดแย้ง หรือ ปัญหาที่เกิดจากแรงกดดัน แล้วเมื่อต้องมาอยู่ร่วมกัน ก็จะพบว่า มักเกิดอาการ “ปะทุ” ได้ง่ายขึ้น
ผู้ที่มีปัญหา โรคซึมเศร้า หรือแม้แต่ จิตเภท ก็จะเกิดอาการวีน หรือ เศร้าหมองอย่างหนัก ได้โดยง่าย ในวันนี้เลยล่ะครับ
อ้างอิง 8 วิธีประเมินโรคซึมเศร้า
ซึ่งหากสังเกตให้ดี ตามที่ลุงพุฒเขียนไปในย่อหน้าก่อนหน้านี้ ก็จะพบว่า มักเป็นอาการของคนที่มีกิเลสโทสะเป็นเจ้าเรือน หรือ ครอบงำจิตใจเป็นประจำ นั่นล่ะครับ
วิธีการง่ายๆ ที่เรา สามารถหยิบใช้กันได้ ก็คือ หลีกเลี่ยงการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนที่เยอะๆ ในวันนี้ โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องเผชิญหน้ากับคู่กรณี หรือ ศัตรู ก็หลีกเลี่ยงได้เป็นดี
แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรที่จะหาประเด็นที่เป็นเรื่องสนุกสนาน เพลิดเพลิน มาคุยกัน แต่ก็ต้องตั้งการ์ดให้ดี เตือนใจตนเอง ว่าอย่าได้หลุดอะไรที่ไม่ดีไม่งามออกไป ต้องรู้จักระงับยับยั้งจิตใจของตนเองไว้
ส่วนคนที่มีปัญหาคาใจ กับคนรัก ให้หลีกเลี่ยง นะครับ เพราะหากว่า จะไปเคลียร์ใจกัน ในวันนี้ ดีไม่ดี ก็ได้หัก ได้ตัดสัมพันธ์ กันไปเลย
คนโบราณกับวันจันทร์ดับ
ถ้าเป็นสมัยสุโขทัย วันจันทร์ดับ จะเป็นวันฟังธรรม หรือที่เรียกกันว่า วันธรรมสวนะ นั่นล่ะครับ กรุงสุโขทัยจะไม่ทำงานอะไรกันในวันนี้ พากันไปฟังธรรม
ฟังธรรมก็คือฟังธรรมนะครับ ไม่ใช่ไปพูดไปโต้แย้งแข่งกับใคร เมื่อไม่ได้พูดไม่ได้โต้แย้งกับใครในวันนี้ (และทุกคนก็พร้อมจะไม่พูดไม่โต้งแย้งกับใคร) เรื่องที่จะเกิด การทะเลาะเบาะแว้ง เกิดความบาดหมาง ก็จะไม่มี
ถ้าเป็นผู้คนร่วมสมัย แต่มีอายุมากหน่อย และอยู่ในต่างจังหวัด วันจันทร์ดับ ซึ่งเป็นวันพระ ก็จะพากันไป ทำบุญ ฟังธรรม ที่วัด และช่วงบ่าย ก็จะสมาทานศีล ๘ รวมถึง กิจกรรม “ปิดวาจา” ก็จะทำให้ สามารถ ผ่านวันจันทร์ดับ ไปได้ โดยที่ไม่เกิดการวิวาท หรือ บาดหมาง กับใคร
แล้วลุงพุฒล่ะ
ส่วนลุงพุฒ ก็มีวิธีการรับมือกับ วันจันทร์ดับ ไว้ ๓ อย่าง คือ
๑ สวดมนตร์ไหว้พระ (จริงก็สวดทุกวันครับ) บทสำคัญที่สวดเป็นประจำ นอกจาก พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ แล้ว ก็จะมี ธรรมนิยามสูตร ปฏิจจสมุปบาท และ ธรรมจักกัปวัตนสูตร (นอกเหนือจากการเสกคาถา “อนิจจา วะตะสังขารา… ” ลงในกาแฟดำแก้วแรกเป็นประจำแล้ว
๒ งดการทำงานที่เกี่ยวข้องกับผู้คนอื่นๆ โดยเฉพาะงานด้านโหราศาสตร์ทั้งหมด เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งต่างๆ (แต่ก่อนก็เคยลองของครับ แล้วก็พบว่า ใครก็ตาม ที่มาดูดวงกับลุงพุฒ ในวันจันทร์ดับ ล้วนแต่ “แรง” ทั้งนั้นเลย ดังนั้น ก็เลยถือเอาวันนี้เป็นวันหยุดอีกวัน นอกเหนือจากที่หยุดวันพระแล้ว
๓ จุดเทียนบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรงนี้ถือเอาเคล็ด จากการอ่านการสร้างบารมีของ พระนางสุมิตตาราชเทวี ผู้เป็น พระขนิษฐาน ของ องค์สมเด็จพระปุราณทีปังกรพุทธเจ้า ที่ได้ยินว่า ทรงแสดงลัทธยาเทศน์ให้กับ พระปัจฉิมทีปังกรโพธิสัตว์ หลังจากที่ได้ถวายการจุดประทีปจากตะเกียงน้ำมันผักกาด และ พระนางสุมิตตาราชเทวี (ผู้ซึ่งจะสำเร็จเป็น องค์สมเด็จพระโคตมพุทธเจ้า – พระพุทธเจ้าของเราในสมัยพระพุทธศาสนาปัจจุบันนี่ล่ะ) เมื่อได้ยินได้ฟัง ก็ทำบ้าง และเมื่อทำแล้ว ก็ได้รับคำพยากรณ์ (แม้ว่าจะไม่ใช่ ลัทธยาเทศ โดยตรง ก็ตาม) มีที่ให้อ่านหลายแห่งเลยครับ เรื่องนี้
จันทร์ดับ-ตุลาคม-65 เมื่อไหร่
สำหรับ จันทร์ดับ-ตุลาคม-65 ซึ่งก็คือวันนี้ วันอังคารที่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๕ เวลา ๑๗:๔๘ น. ตามเวลามาตรฐานประเทศไทยครับ ซึ่งก็เชื่อได้ว่า ค่ำคืนนี้ หากไม่มีแสงไฟจากท้องถนน และตามบ้านเรือนแล้ว ท้องฟ้าในยามค่ำคืน จะสวยสดงดงาม เป็นที่สุด ครับ ทั้งนี้เพราะ จะได้เห็นดวงดาวส่องแสงระยิบระยับพร่างพราวไปทั่วทั้งท้องฟ้าครับ
วัชรพล ศิริวัฒน์ (ลุงพุฒ)
วันอังคารที่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๕ (วันจันทร์ดับ)
รายละเอียด: https://nakamole.com
ค่าครูและหมายเลขบัญชี: https://nakamole.com/#price
facebook fanpage: https://www.facebook.com/nakamole/
